การแสดงงบประมาณโฆษณาของคุณ

คุณสามารถหยุดการนำเสนอโฆษณา (และหยุดไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ได้ทุกเวลาโดยการหยุดโฆษณาที่ ตัวจัดการโฆษณา คุณอาจยังได้รับใบเรียกเก็บเงินหลังจากที่หยุดการนำเสนอโฆษณาแล้ว อย่างไรก็ตาม ใบเรียกเก็บเงินนี้จะเรียกเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายก่อนการหยุดนำเสนอโฆษณาเท่านั้น ใบเรียกเก็บเงินไม่ได้หมายความว่าโฆษณาของคุณกลับมาแสดงอีกครั้ง

เคล็ดลับ: สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์แก่คุณ เมื่อชมเกี่ยวกับการนำส่งโฆษณาเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นว่างบประมาณมีความเหมาะสมกับระบบการนำส่งโฆษณาของเราอย่างไร

งบประมาณคืออะไร

งบประมาณเป็นเครื่องมือควบคุมต้นทุน ซึ่งจะช่วยควบคุมการใช้จ่ายโดยรวมสำหรับชุดโฆษณา (สำหรับแคมเปญ) ในทำนองเดียวกับที่กลยุทธ์ราคาประมูลช่วยควบคุมต้นทุนต่อผลลัพธ์

กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงก็คือ งบประมาณเป็นจำนวนเงินที่คุณต้องการจ่ายเพื่อแสดงโฆษณาให้แก่ลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะสร้างเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสม

สิ่งสำคัญ:

  • เมื่อตั้งงบประมาณ คุณไม่ได้กำลังซื้อโฆษณาหรือความสามารถในการแสดงโฆษณา แต่คุณกำลังบอกเราว่าคุณพร้อมจะใช้เงินกับโฆษณาเท่าไร หากชุดโฆษณาของคุณแข่งขันได้อย่างสม่ำเสมอในการประมูลโฆษณา เราก็มักจะใช้งบประมาณของคุณเต็มวงเงิน แต่หากไม่ เราอาจจะไม่ใช้ หรือกล่าวอีกอย่างคือ งบประมาณของคุณนั้นแยกจากจำนวนเงินทั้งหมดที่คุณใช้ไป คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินสำหรับงบประมาณที่ไม่ได้ใช้
  • หากคุณไม่ได้ใช้งบประมาณแคมเปญ ชุดโฆษณาแต่ละชุดจะมีงบประมาณของตัวเอง โปรดจำข้อมูลต่อไปนี้ไว้ถ้าคุณมีชุดโฆษณาที่กำลังใช้งานมากกว่าหนึ่งชุด

งบประมาณแบบใดบ้างที่ใช้ได้

คุณสามารถกำหนดงบประมาณในระดับชุดโฆษณาหรือแคมเปญ ไม่ว่าคุณจะเลือกระดับใด งบประมาณจะมีอยู่สองประเภท:

  • งบประมาณต่อวัน: จำนวนเงินเฉลี่ยที่คุณยินดีจ่ายสำหรับชุดโฆษณาชุดใดชุดหนึ่งหรือแคมเปญในแต่ละวัน
  • งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน: จำนวนเงินที่คุณยินดีจ่ายสำหรับชุดโฆษณาชุดใดชุดหนึ่งหรือแคมเปญตลอดระยะเวลาที่แสดงโฆษณา

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถเปลี่ยนประเภทหลังจากสร้างชุดโฆษณาหรือแคมเปญแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณทำซ้ำชุดโฆษณาหรือแคมเปญที่มีอยู่ได้ หรือเปลี่ยนรูปแบบงบประมาณ (และจำนวนเงินตามความเหมาะสม) และสร้างชุดโฆษณาหรือแคมเปญใหม่

ฉันจะกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมอย่างไร

เราไม่สามารถระบุอย่างเฉพาะเจาะจงได้ว่าคุณควรใช้งบประมาณเท่าใด แต่เมื่อทำการตัดสินใจ โปรดพิจารณาว่าสิ่งใดคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ ระหว่างค่าใช้จ่ายสุทธิกับต้นทุนต่อเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสม

หากเป้าหมายหลักของคุณคือการใช้เงินจำนวนหนึ่ง ให้กำหนดเงินจำนวนนั้นเป็นงบประมาณของคุณ จากนั้นให้มอบความยืดหยุ่นในการประมูลราคาและกำหนดเป้าหมายแก่ Facebook ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เราได้ใช้เงินจำนวนนั้น ตัวอย่าง:

หากคุณมีเงิน 1000 ดอลลาร์เพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ให้กำหนดงบประมาณ 1000 ดอลลาร์ แล้วตั้งการคลิกลิงก์เป็นเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมของคุณ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและใช้กลยุทธ์การประมูลที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดโดยไม่ต้องจำกัดราคาประมูล ขั้นตอนดังกล่าวนี้จะทำให้ระบบการแสดงโฆษณาดำเนินการให้คุณได้รับการคลิกลิงก์จำนวนมากที่สุดภายในงบประมาณที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในขณะเดียวกันก็ยังได้ใช้งบประมาณ 1000 ดอลลาร์ของคุณครบจำนวนอีกด้วย

หากเป้าหมายหลักของคุณคือการควบคุมต้นทุนต่อเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสม คุณจะต้องเลือกกลยุทธ์การประมูลที่จำกัดและอนุญาตให้เราใช้เงินมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตราบเท่าที่เราใช้งบประมาณตามต้นทุนเป้าหมายดังกล่าว ตัวอย่าง:

สมมติว่าเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมของคุณคือการซื้อ และคุณรู้ว่าจะได้กำไร 10 ดอลลาร์ ตราบเท่าที่ต้นทุนต่อการซื้อไม่เกิน 100 ดอลลาร์ คุณสามารถกำหนดงบประมาณในจำนวนที่สูง ตราบเท่าที่คุณจับคู่งบประมาณกับการจำกัดราคาประมูล หรือเป้าหมายต้นทุนที่ไม่เกิน 100 ดอลลาร์ และเมื่อคุณได้กำไรจากทุกๆ การซื้อ ก็คงไม่มีเหตุผลที่คุณจะไม่อยากได้จำนวนการซื้อสูงที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ในที่สุดแล้ว เราอาจใช้กลุ่มเป้าหมายครบแล้ว และไม่มีการซื้อ หรือชิ้นงานโฆษณาของคุณอาจหยุดทำงาน แต่ข้อจำกัดเหล่านี้อาจจะดีกว่าอดได้กำไรเพราะตั้งงบประมาณต่ำเกินไป

เคล็ดลับ: หากคุณใช้การจำกัดราคาประมูลหรือต้นทุนสำหรับชุดโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับคอนเวอร์ชั่น เราขอแนะนำให้กำหนดงบประมาณของคุณสูงกว่าการจำกัดราคาประมูลหรือเป้าหมายต้นทุนอย่างน้อยห้าเท่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้มีโอกาสได้รับผลลัพธ์ตามต้องการ (มีโอกาสที่จะได้รับคอนเวอร์ชั่นอย่างน้อย 5 ครั้งต่อวัน) เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การปรับแต่งคอนเวอร์ชั่น

วิธีการใช้งบประมาณของฉันเป็นอย่างไร

วิธีที่เราใช้งบประมาณของคุณนั้นขึ้นอยู่กับประเภทการแสดงโฆษณาที่คุณเลือก: แบบมาตรฐานหรือแบบเร่งความเร็ว

หมายเหตุ: คุณเลือกใช้การแสดงโฆษณาแบบเร่งความเร็วได้เฉพาะในกรณีที่คุณใช้การจำกัดราคาประมูล

การแสดงโฆษณาแบบมาตรฐาน

หากคุณเลือกใช้การแสดงโฆษณาแบบมาตรฐาน เราจะพยายามใช้งบประมาณอย่างเท่าๆ กันตลอดระยะเวลาที่คุณใช้งานแคมเปญ (ซึ่งเรียกว่า “ช่วงจังหวะจัดแสดงโฆษณา”) เราแนะนำทางเลือกนี้ในเกือบทุกกรณี

การแสดงโฆษณาแบบเร่งความเร็ว

หากคุณเลือกการแสดงโฆษณาแบบเร่งความเร็ว เราจะพยายามใช้งบประมาณของคุณให้เร็วที่สุดที่เป็นไปได้

หมายเหตุ: การแสดงโฆษณาแบบเร่งความเร็วอาจคุ้มค่าหากเวลามีความสำคัญกับแคมเปญของคุณมาก แต่โปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง งบประมาณตลอดอายุการใช้งานอาจหมดตั้งแต่ยังไม่ครบวัน งบประมาณต่อวันอาจหมดในเวลาไม่ถึงชั่วโมงและจะไม่มีการใช้เพิ่มจนกว่าจะถึงวันถัดไป

การเปลี่ยนแปลงราคาประมูลทำงานอย่างไร

คุณเปลี่ยนแปลงงบประมาณได้ตลอดเวลา วิธีดำเนินการ

  1. ไปที่ “ตัวจัดการโฆษณา
  2. วางเมาส์เหนือชุดโฆษณา (หรือแคมเปญ) ที่คุณต้องการแก้ไข
  3. คลิก “แก้ไข
  4. เปลี่ยนแปลงงบประมาณของคุณ
  5. คลิก “ยืนยันและปิด

ระบบการแสดงโฆษณาของเราจะใช้เวลา 15 นาทีในการนำงบประมาณที่อัพเดตมาใช้กับชุดโฆษณาหนึ่งชุดหรือแคมเปญ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงเสมอ ถ้าหาก:

  • คุณหยุดชุดโฆษณาหรือแคมเปญชั่วคราวเพื่อเปลี่ยนแปลงงบประมาณ คุณเริ่มแสดงชุดโฆษณาหรือแคมเปญอีกครั้งได้ทันทีที่คุณเปลี่ยนแปลงงบประมาณเสร็จ แต่การทำเช่นนั้นอาจมีการแสดงโฆษณาด้วยงบประมาณแบบเก่าเป็นเวลา 15 นาที เราแนะนำให้คุณรอ 15 นาทีก่อนเริ่มแสดงชุดโฆษณาอีกครั้งด้วยงบประมาณที่อัพเดตแล้ว โดยเฉพาะถ้าคุณลดงบประมาณลงเยอะ
  • คุณเปลี่ยนแปลงราคาประมูลด้วย ต่างจากการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ การเปลี่ยนแปลงราคาประมูลจะถูกนำไปใช้ในทันที หากคุณพยายามเปลี่ยนทั้งสองอย่างในคราวเดียว คุณอาจเผชิญกับระยะเวลาสั้นๆ ที่ราคาประมูลใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยนแล้วแต่งบประมาณใหม่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้คุณรอเปลี่ยนราคาประมูลหลังเปลี่ยนงบประมาณไปแล้ว 15 นาที

หมายเหตุ: มีความแตกต่างกันระหว่างการนำการเปลี่ยนแปลงใหม่มาใช้กับการที่ระบบของเราเรียนรู้วิธีที่จะปรับการแสดงโฆษณาของคุณให้เหมาะสมตามค่าที่เปลี่ยนแปลง ระบบอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ว่าควรแสดงโฆษณาให้กับใครจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงงบประมาณกระทบประสิทธิภาพการทำงานหรือไม่

ใช่ หากคุณเปลี่ยนแปลงงบประมาณของคุณ ระบบของ Facebook อาจต้องทำการเรียนรู้ใหม่กับวิธีที่จะนำเสนอโฆษณาของคุณให้ดีที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณใหม่ อย่างไรก็ตาม หากชุดโฆษณาของคุณยังแสดงได้ไม่ดี การเพิ่มงบประมาณก็ไม่ใช่วิธีที่ดีในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การเปลี่ยนแปลงราคาประมูล การกำหนดเป้าหมาย และ/หรือ ชิ้นงานโฆษณา คือวิธีที่ดีในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

นอกจากความผันผวนที่อาจมากับความต้องการเรียนรู้วิธีที่จะนำเสนอโฆษณาของคุณให้ดีที่สุด นี่เป็นวิธีที่การเปลี่ยนแปลงของงบประมาณอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานหลังจากช่วงการเรียนรู้จบลง เริ่มต้นด้วยการที่โฆษณาของคุณกำลังใช้ (หรือมีแนวโน้มที่จะใช้) งบประมาณโฆษณาเต็มวงเงิน:

หากชุดโฆษณาของคุณกำลังใช้ (หรือมีแนวโน้มที่จะใช้) งบประมาณโฆษณาเต็มวงเงิน

  • การเพิ่มงบประมาณ วิธีนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หากคุณเพิ่มงบประมาณสูงมากจนเราไม่อาจหาผลลัพธ์ตามข้อจำกัดของคุณได้ เราอาจไม่สามารถใช้งบประมาณของคุณได้ครบหมายเหตุ: หากคุณเพิ่มงบประมาณขึ้นมากขณะที่กำลังใช้กลยุทธ์การประมูลที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ต้นทุนต่อเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมของคุณอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเพราะมีเพียงเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมที่มีต้นทุนต่ำที่สุดเป็นจำนวนมากเท่านั้น หากคุณต้องการใช้งบประมาณมากขึ้น เราอาจต้องใช้เหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมที่มีต้นทุนสูงขึ้น
  • การลดงบประมาณ คุณมีแนวโน้มจะใช้งบประมาณทั้งหมด แต่ได้ผลลัพธ์น้อยลงจากการลดงบประมาณ

หากชุดโฆษณาของคุณไม่ได้ใช้ (หรือไม่มีแนวโน้มที่จะใช้) งบประมาณโฆษณาทั้งหมด:

  • การเพิ่มงบประมาณ จะไม่ส่งผลใดๆ คุณเพียงแค่ใช้งบประมาณของคุณในสัดส่วนที่น้อยลงไปอีก
  • การลดงบประมาณ คุณอาจใช้งบประมาณในสัดส่วนที่สูงขึ้น แต่ถ้านั้นไม่ใช้เป้าหมายสุดท้ายของคุณ ก็จะไม่มีผลใดๆ

การเก็บค่าบริการจากงบประมาณของฉันจะเกิดขึ้นเมื่อใด

เมื่อคุณสร้างชุดโฆษณา คุณเลือกได้ว่าจะให้ เก็บค่าบริการตามผลลัพธ์ใด เราคิดค่าใช้จ่ายจากงบประมาณชุดโฆษณาของคุณเมื่อเกิดผลลัพธ์ที่คุณเลือกเท่านั้น (เช่น เราได้แสดงอิมเพรสชั่นโฆษณาหรือมีการคลิกลิงก์ของโฆษณา) จำนวนเงินที่เรียกเก็บค่าบริการสำหรับผลลัพธ์นั้นกำหนดจากการประมูลราคา

ฉันจะหยุดการเรียกเก็บค่าบริการได้อย่างไร

คุณสามารถพักใช้งานชุดโฆษณาหรือแคมเปญเพื่อไม่ให้มีการเรียกเก็บเงินในช่วงเวลาใดๆ (โปรดทราบว่าคุณอาจยังคงได้รับใบเรียกเก็บเงินในภายหลัง แต่จะใช้เฉพาะค่าบริการที่เกิดขึ้นก่อนที่จะพักใช้งาน) วิธีดำเนินการ

  1. ไปที่ “ตัวจัดการโฆษณา
  2. ใช้แท็บที่ด้านบนเพื่อเลือกว่าคุณต้องการพักใช้งานแคมเปญ หรือชุดโฆษณาหมายเหตุ: การพักใช้งานแคมเปญจะทำให้ชุดโฆษณาทั้งหมดที่มีอยู่ไม่ทำงาน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างของโฆษณาใน Facebook
  3. ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการพักใช้งาน ถ้าสิ่งนั้นกำลังใช้งานอยู่ (หมายความว่าคุณอาจถูกเรียกเก็บค่าบริการ) การสลับค่าจะเป็นแบบนี้: หมายเหตุ: หากไม่ได้ใช้งานอยู่แล้ว (ซึ่งจะเป็นแบบนี้: ) ก็จะไม่สะสมค่าบริการใหม่
  4. คลิกปุ่มสลับของแคมเปญ หรือชุดโฆษณาที่ใช้งานอยู่ เพื่อพักใช้งาน โฆษณาเหล่านั้นก็จะไม่ก่อให้เกิดค่าบริการ

คุณอาจยังคงถูกเรียกเก็บเงินสำหรับค่าบริการของแคมเปญ หรือชุดโฆษณาที่เกิดขึ้นก่อนที่คุณจะพักใช้งาน ใบเรียกเก็บเงินนี้อาจมาถึงหลังจากที่คุณพักใช้งานแล้ว ตัวอย่าง ถ้าคุณยังใช้ไม่ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินเมื่อคุณหยุดใช้งานแคมเปญ คุณจะยังไม่ได้รับใบเรียกเก็บเงินสำหรับค่าบริการที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังใช้งานแคมเปญ จนกว่าจะถึงสิ้นเดือน จะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมจากคุณ คุณเพียงแค่ได้รับใบเรียกเก็บเงินภายหลังสำหรับค่าบริการที่เกิดขึ้นก่อนที่จะพักใช้งาน

 

เพิ่มเพื่อน

ติดต่อ Line ID : @indigital (มีนะคะ)
คลิกเพื่อ ADD Line : https://line.me/R/ti/p/%40indigital

Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
คลิก https://www.facebook.com/indigital.co.th/
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th

 

ข้อมูลจาก Facebook

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *