เริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์อย่างไร? ให้ได้ยอด

สมัยนี้การขายสินค้าออนไลน์ เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย เพราะการขายสินค้าออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ก็ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าเช่าร้าน ไม่ต้องจ้างคนขาย ฯลฯ ก็ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ ผู้ประกอบการขายสินค้าจึงนิยมเปลี่ยนมาเป็นการขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น แต่การขายสินค้าออนไลน์ ก็ไม่ใช่ว่าจะขายได้ทุกร้านเสมอไป ทำอย่างไรให้ผู้ขายมียอดขายทะลุเป้า ไม่ขาดทุนแถมได้กำไรแบบไม่ต้องเหนื่อย ผู้ประกอบการควรจะเริ่มอย่างไร เรามีวิธีง่ายๆ มาเสนอเพื่อเป็นหลักในการเริ่มต้นการเปิดร้านขายสินค้าบนโลกออนไลน์กัน

อีคอมเมิร์ซ, ขายออนไลน์, ยอดขายออนไลน์

1. ขั้นตอนการเลือกสินค้าที่จะทำการขาย
ขั้นตอนแรกในการเริ่มการขายสินค้าทุกประเภท ผู้ขายจะต้องรู้ก่อนว่าจะขายสินค้าอะไร? ดังนั้น การเลือกสินค้าหรือบริกาที่จะมานำเสนอขาย ผู้ขายสินค้าควรจะศึกษาและมีความรู้หรือความสนใจเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ เพราะถ้าหากลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าเกิดมีข้อสงสัยในสินค้าหรือบริการนั้น ผู้ขายก็จะสามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการซื้อสินค้าของผู้ประกอบการด้วย

2. ขั้นตอนการเขียนข้อความเชิญชวย หรือคำโฆษณาประชาสัมพันธ์
การโฆษณาประชาสัมพันธ์ หากร้านนั้นมีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่ดี ก็จะช่วยทำให้สินค้านั้นเป็นที่รู้จักของบุคคลมากขึ้น และสามารถขายสินค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น การเขียนข้อความเชิญชวน หรือคำโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งสิ่งที่ผู้ขายควรคำนึงถึงก็คือ จะต้องเขียนอย่างไรให้สินค้าออกมาดูมีความน่าสนใจและสะดุดตาคนที่ได้อ่านมากที่สุด รวมถึงประโยชน์ของสินค้านั้นๆ ให้ลูกค้าที่อ่านเกิดความสนใจ มั่นใจในสินค้า และอยากซื้อสินค้าของร้านเรา

3. ขั้นตอนการเลือกสถานที่ตั้งของร้าน
การเลือกสถานที่ตั้งของร้าน ก็มีผลต่อยอดขายได้เหมือนกัน เช่น หากผู้ขายต้องการขายสินค้าประเภทแฟชั่น แต่บริเวณรอบข้างร้านเป็นตลาดสด อันนี้ก็ไม่น่าจะเหมาะ เพราะคนซื้อและตัวสินค้าน่าจะเป็นคนละทาร์เก็ตกัน ซึ่งการขายสินค้าออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน หากผู้ขายยังไม่มีเว็บไซต์ร้านเป็นของตัวเอง การนำสินค้าไปฝากขายตามเว็บขายสินค้าใหญ่ๆ เช่น ebay, Shopee, amazon ฯลฯ ก็ควรจะเลือกหมวดสินค้าให้ตรงกับสินค้าที่จะขายให้ถูกต้องด้วย เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะได้ไม่เสียโอกาสทางการซื้อขายสินค้า

4. ขั้นตอนการเลือกวิธีชำระเงิน
สำหรับขั้นตอนการชำระเงิน ก็มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับการซื้อขายสินค้า เพราะโดยส่วนใหญ่ร้านค้าออนไลน์มักจะ จะใช้วิธีการโอนเงิน แล้วให้ลูกค้าส่งสลิปมาให้เพื่อยืนยันการโอนเงิน มาทางสื่อโซเชียลต่างๆ เช่น LINE, Facebook, Direct Message หรือบางร้านเลือกที่จะใช้การจ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือผ่าน Paypal ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางการชำระเงินที่ดี เพราะทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการชำระเงินเพิ่มมากขึ้น และสะดวกมากขึ้น

5. ขั้นตอนการจัดส่งสินค้า
ขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อขายออนไลน์ ก็คือ การเลือกวิธีการจัดส่งสินค้า การจัดส่งสินค้าอย่างไรให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีความถูกต้อง ซึ่งหากผู้ขายไม่อยากมีความยุ่งยากในการจัดการ ก็สามารถเลือกใช้วิธี Dropship ได้ แต่ถ้าอยากจัดการด้วยตัวเอง ก็อาจจะต้องมาตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการการจัดส่งของบริการไหนดี ซึ่งปัจจุบันนอกจากการส่งผ่านไปรษณีย์ไทยแล้ว ก็มีอีกหลากหลายบริษัทให้เลือกใช้ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ว่าจะสะดวกให้จัดส่งแบบไหน สามารถตกลงกันได้ ก็จะเป็นการจบการซื้อขายที่ดี

สำหรับผู้ขายสินค้าออนไลน์ ถ้าไม่รู้จะเริ่มการขายอย่างไร ก็นำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดู รับรองว่าจะทำให้ผู้ขายมียอดขายดีขึ้น มียอดขายทะลุเป้า ไม่ขาดทุนแถมได้กำไรแบบไม่ต้องเหนื่อยอีกด้วย

 

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@inDigital ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

 

 

Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *