การอัพเดตความโปร่งใสในการติดตามแอพ (ATT) ที่ขัดแย้งกันของ Apple กำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อ Facebook โดย The Social Network ได้สรุปวิธีการเฉพาะบางประการที่การรายงานโฆษณาได้รับผลกระทบจากการแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัวใหม่ Facebook กำลังทำงานในเรื่องนี้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งกว่าจะสำเร็จเป็นรูปธรรม คงได้รับผลกระทบค่อนพอสมควรเพราะดูเหมือนว่าผู้ใช้หลายคนอาจเลือกที่จะปิดการติดตามข้อมูลด้วยเหตุนี้ ตัวเลขจริงที่นี่ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่รายงานระบุว่าผู้ใช้ iOS ส่วนใหญ่กำลังเลือกไม่ติดตาม ซึ่งดูเหมือนจะลดลงบ้างเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็ยังสูงกว่าอัตราการเลือกไม่รับ 60% ผลที่ตามมาก็คือผู้ลงโฆษณาจะมีข้อมูลให้ดำเนินการน้อยลง
เพื่อจัดการสิ่งนี้ Facebook ได้จัดทำเคล็ดลับต่างๆ เพื่อช่วยผู้โฆษณาลดผลกระทบในการลงทุนบนโฆษณาบน Facebook เคล็ดลับสำคัญได้แก่
- เคล็ดลับยอดนิยมของ Facebook คือผู้โฆษณาจำเป็นต้องให้เวลากับระบบในการปรับตัวก่อนทำการเปลี่ยนแปลงกับแคมเปญที่มีประสิทธิภาพต่ำ “ด้วยความแตกต่างของข้อมูลที่ล่าช้าและการรายงานแบบจำลอง ให้งรออย่างน้อย 72 ชั่วโมง ก่อนจะประเมินประสิทธิภาพสำหรับแคมเปญที่เพิ่มประสิทธิภาพ Conversion” ระบบของ Facebook อิงตามตัวกระตุ้นประสิทธิภาพการเรียนรู้ และประเภทของผู้ที่ตอบสนองต่อโฆษณาแต่ละรายการ ด้วยเหตุนี้ จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลการตอบสนอง เพื่อให้แน่ใจว่ามีการตอบสนองสูงสุด
- ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของขั้นตอนการเรียนรู้เพื่อช่วยให้ระบบการจัดส่งเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดในการแสดงโฆษณาของคุณ Facebook แนะนำว่าควรใช้เวลาประมาณ 50 กิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายในระยะเวลา 7 วัน ซึ่งจะช่วยให้ Facebook เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงโฆษณาในอนาคต ดังที่คุณเห็นในแผนภูมิด้านล่าง ใน ‘ขั้นตอนการเรียนรู้’ เริ่มต้น เมื่อระบบของ Facebook กำลังค้นหาว่าผู้คนประเภทใดที่ตอบสนองต่อโฆษณาของคุณ ประสิทธิภาพการทำงานจะมีเสถียรภาพน้อยลง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ค่านั้นจะลดลง
- ตั้งค่า Conversion API ของ Facebook ช่วยสร้างการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างเหตุการณ์บนเว็บไซต์และ Facebook ซึ่งสามารถลดผลกระทบของ ATT ได้เช่นกัน การเพิ่ม Conversions API ในการตั้งค่าที่มีอยู่จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณา ลดต้นทุนต่อการดำเนินการ และวัดผลลัพธ์ของแคมเปญได้แม่นยำยิ่งขึ้น ในขณะที่ให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวแบบเดียวกันกับที่เราได้วางไว้ในเครื่องมือทางธุรกิจอื่นๆ
- นอกจากนี้ Facebook ยังแนะนำว่าผู้โฆษณา ‘พิจารณาเครื่องมือทั้งหมดที่มี’
เพื่อวัดประสิทธิภาพแคมเปญ ซึ่งรวมถึงเครื่องมือที่ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับ Facebook ซึ่งสามารถเสริมข้อมูลแคมเปญของคุณได้ ตามที่ระบุไว้ ผู้โฆษณาผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่กำลังทำสิ่งนี้อยู่แล้ว โดยทำงานกับรูปแบบใหม่ที่รวมแหล่งข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้มุมมองที่แม่นยำยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ ตามการวัดที่แตกต่างกัน
ที่มา : SocialMediaToday
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ Digital Marketing Trend เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
ติดต่อเรียนการตลาดออนไลน์ Digital Marketing กับอาจารย์หลิง
ทางไลน์ไอดี @ajlink
ติดตามบน Facebook Fanpage : AJLink อาจารย์หลิง