เพิ่มยอดขายออนไลน์ เริ่มต้นที่ CTR เพิ่มยอดขายออนไลน์ เริ่มต้นที่ CTR

เพิ่มยอดขายออนไลน์ เริ่มต้นที่ CTR

✅เช็คด่วน!
เพิ่มยอดขายออนไลน์? เริ่มต้นที่ CTR!

 

 

ในโลกออนไลน์ที่การแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน การมีเว็บไซต์ที่สวยงามอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เหมือนที่เขาว่าไว้ “หน้าตาดีอย่างเดียวมันกินไม่ได้” สิ่งสำคัญคือการทำให้ลูกค้ามองเห็นและคลิกเข้าเว็บไซต์ของคุณ ถ้าไม่มีคนเห็น ก็เหมือนทำกับข้าวอร่อยแล้วไม่มีใครกิน นี่คือจุดที่ CTR เข้ามามีบทบาทสำคัญ

การวัดผลความสำเร็จของแคมเปญโฆษณาออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือ CTR หรือ Click-Through Rate ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของโฆษณาในการดึงดูดผู้ชมให้คลิก

อาจารย์หลิงจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ CTR พร้อมเผยเทคนิคเด็ดที่จะช่วยเพิ่ม CTR และดันยอดขายออนไลน์ให้ทะลุเป้า!

✨CTR คืออะไร?

CTR หรือ Click-Through Rate (อัตราการคลิกผ่าน) คือ ค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพของลิงก์ โฆษณา หรือคอนเทนต์ออนไลน์ต่างๆ ในแคมเปญการตลาด โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แสดงให้เห็นว่ามีคนคลิกมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับจำนวนครั้งที่โฆษณานั้นถูกแสดงผล คิดง่ายๆ ก็คือ ถ้ามีคนเห็นโฆษณาของคุณ 100 คน แล้วมีคนคลิก 5 คน CTR ของคุณก็จะเท่ากับ 5%

สมมติว่าเราขาย “หมอนรองคอแมวน้ำสุดนุ่ม” แล้วมีคนเห็นโพสต์ 100 คน แต่มีคนคลิกเข้าไปดูแค่ 2 คน CTR ก็จะเท่ากับ 2% (2/100 x 100) น้อยนิดเดียวเอง แบบนี้ต้องกลับไปปรับปรุงด่วนๆ เลยนะ

✨ทำไม CTR ถึงสำคัญ?

CTR สูง = คนคลิกเยอะ โฆษณาปัง ดึงดูดใจคนเห็น
CTR ต่ำ = คนคลิกน้อย โฆษณาอาจจะไม่โดนใจ
หรือไม่ตรงกับ Keyword หรือคำที่คนค้นหา

CTR ช่วยดึงดูดลูกค้า:
CTR สูง หมายความว่าคอนเทนต์ของคุณดึงดูดใจ จนคนอดใจคลิกเข้ามาดูไม่ได้

CTR ช่วยเพิ่ม Traffic:
ยิ่งคนคลิกมากเท่าไหร่ Traffic หรือจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ก็ยิ่งพุ่งกระฉูด

CTR ช่วยสร้าง Brand Awareness: การที่เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ และมีคนคลิกเข้ามาเยอะๆ ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

CTR ช่วยปรับปรุง SEO:
Search Engine มอง CTR เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ CTR สูง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงคุณภาพของคอนเทนต์ ซึ่ง Google ใช้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่ดีขึ้น

CTR ช่วยลดต้นทุนโฆษณา:
โดยเฉพาะใน Google Ads CTR เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อ Quality Score ซึ่งมีผลต่ออันดับโฆษณาและต้นทุน

✅เช็คลิสต์เพิ่ม CTR ให้อัตราคลิกพุ่ง!

• พาดหัวโฆษณาต้องเด็ด
เพราะพาดหัวคือ First Impression ที่สำคัญ! ใช้คำกระตุ้นความสนใจ สร้างความอยากรู้ ให้คนอ่านผ่านๆ ก็เข้าใจได้ทันที หรือเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ ใช้ Keyword ที่คนค้นหาเยอะๆ
ใช้คำกระตุ้นความสนใจ สร้างความอยากรู้ เช่น “เคล็ดลับ…”, “วิธี…”, “ฟรี!”

ตัวอย่าง:
❌ “เสื้อผ้าแฟชั่น”
✅ “เสื้อผ้าแฟชั่นลดราคา 50%!”

• ข้อความโฆษณาต้องโดน
เขียนให้กระชับ สื่อสารชัดเจน ตรงประเด็น น่าสนใจ เน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ใช้ Keyword ที่ตรงกับการค้นหา
ตัวอย่าง:
❌ “กางเกงยีนส์ขายดี”
✅ “กางเกงยีนส์ขายดี ทรงสวย ใส่สบาย ราคาถูก”

• Call to Action ชัดเจน
กระตุ้นให้คนอ่านทำอะไรบางอย่างที่เราต้องการ หรือ บอกให้ลูกค้ารู้ว่าคุณต้องการให้ลูกค้าทำอะไร
เช่น “แอดไลน์”, “สั่งซื้อเลย”, “สมัครสมาชิก”

• เลือก Keyword ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
สวมบทบาทเป็นลูกค้า เช่น ถ้าคุณอยากได้ของชิ้นนี้ จะ Search ค้นหาคำหาว่าอะไร?
ใช้เครื่องมือช่วย เช่น Google Trends, Keyword Planner เพื่อวิเคราะห์ Keyword ที่ลูกค้าเป้าหมายนิยมค้นหา และแทรก Keyword เหล่านั้นในพาดหัว คำอธิบาย และเนื้อหา แต่ควรระวังการใช้ Keyword มากเกินไป (Keyword Stuffing) เพราะอาจทำให้ Google มองว่าเป็นสแปม

• Meta Description โดนใจ
อธิบายเนื้อหาให้กระชับ ชัดเจน และดึงดูดใจ ภายใน 150-160 ตัวอักษร
เช่น “[ชื่อสินค้า] ราคาพิเศษ! โปรโมชั่นแรงที่สุดแห่งปี! สินค้าคุณภาพ ส่งฟรีทั่วไทย”

• Landing Page ต้องดี
โหลดเร็ว เนื้อหาตรงกับโฆษณา ใช้งานง่าย

• A/B Testing
ทดสอบโฆษณาหลายๆ แบบ เพื่อดูว่าแบบไหน CTR ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็น Headline, Description, รูปภาพ เพื่อดูว่าแบบไหนได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ตัวอย่าง: ลองใช้ Headline 2 แบบ แล้วดูว่าแบบไหนมี CTR สูงกว่า
.
ตัวอย่างการเพิ่ม CTR ในช่องทางต่างๆ

Google Ads:

ใช้ Keywords ในหัวข้อและคำอธิบาย meta description ให้ตรงกับการค้นหา

Facebook Ads:
ใช้รูปภาพที่สะดุดตา เขียนข้อความโฆษณาที่น่าสนใจ กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ

Email Marketing:
ใช้หัวข้ออีเมลที่น่าสนใจ ส่วนบุคคล ใส่ Call to Action ที่ชัดเจน

แต่เดี๋ยวก่อน! CTR สูงแต่ขายของไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนคนเข้ามาดูเสื้อผ้าในร้านเราเยอะแยะ แต่ไม่มีใครซื้อสักคน แม้ CTR จะเป็นตัวชี้วัดที่ดี แต่ไม่ได้การันตีว่าจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คุณภาพของสินค้า ราคา และประสบการณ์ของลูกค้าบนเว็บไซต์

อย่าลืมว่าเป้าหมายสูงสุดของเราคือการขายของได้ CTR เป็นเพียงจุดเริ่มต้น! ไม่ใช่แค่มีคนคลิกเข้ามาดูเฉยๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์อย่างครบถ้วน นอกจากการเพิ่ม CTR แล้ว ต้องมีเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย และต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของเว็บไซต์ เนื้อหา และสินค้า/บริการ มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี เปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้า และปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สู้ๆ นะคะทุกคน!

อัปเดตเทรนด์การตลาดออนไลน์
พร้อมรับความรู้แบบเข้าใจง่าย แถมนำไปใช้ได้จริง
กดติดตาม “อาจารย์หลิง” เลย!

บริการ Content Marketing รับทําคอนเทนต์สร้างยอดขาย

ติดต่อได้ที่ ไลน์ @inDigital

.

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ Digital Marketing Trend เทคนิคการโปรโมทโฆษณา

ติดต่อเรียนการตลาดออนไลน์ Digital Marketing กับอาจารย์หลิง
ทางไลน์ไอดี @ajlink

ติดตามบน Facebook Fanpage : AJLink อาจารย์หลิง

เพิ่มเพื่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *