กรกฎาคม 17, 2019

Elon Musk อัจฉริยะด้านวิศวกรรมของศตวรรษที่ 21 ที่สร้างนวัตกรรมระดับโลก

Elon Musk คือ บุคคลที่สร้างนวัตกรรมระดับโลก ในวงการรถยนต์ Elon Musk ได้เปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลักในการขับเคลื่อนมาเป็นพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% และจะเป็นการสร้าง SolarCity ที่เป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมไปถึงความพยายามที่จะสร้างจรวดเพื่อพามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานที่ดาวอังคาร

Elon Reeve Musk หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Elon Musk นั้น เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ปี 1971 ประเทศแอฟริกาใต้ ที่เมือง Pretoria, Transvaal พ่อของเขา คือ Errol Musk เป็นชาวแอฟริกาใต้ที่มีสัญชาติอังกฤษ ทำงานเป็นวิศกร ส่วนแม่ของเขา คือ Maye Musk เป็นลูกครึ่งแคนาเดียน – อังกฤษ เป็นนางแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร มีพี่น้องด้วยกันรวม 3 คน Elon Musk เป็นพี่คนโตสุด มีน้องชาย คือ Kimbal Musk และน้องสาว คือ Tosca Musk Elon Musk ได้เติบโตและอยู่อาศัยในแอฟริกาใต้ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 9 ขวบ เขาได้รับของขวัญเป็นคอมพิวเตอร์ Commodore VIC-20 เครื่องแรกในชีวิต ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มให้ความสนใจในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง และตอนที่เขาอายุได้ 12 ขวบ ก็สามารถเขียนเกมขึ้นมาเล่นเองชื่อ Blaster ซึ่งสามารถขายได้ในราคา 500 เหรียญฯ จุดเปลี่ยนแรกของ Elon Musk ตอนที่เขาอายุ 17 ปี เขาตัดสินใจออกจากบ้านโดยบอกกับตัวเองว่า ฉันจะต้องยืนได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่เพราะเงินจากพ่อแม่ของเขา เขาตั้งใจที่จะอพยพไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปในทันที ในปี 1989 Elon Musk ได้ย้ายที่อยู่อาศัยไปที่ประเทศ Canada ที่เมือง Montreal โดยไปอยู่อาศัยกับญาติของแม่ของเขาและได้สัญชาติแคนาดาในเวลาต่อมา ซึ่งในช่วงปีแรกที่เขาก็จ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแลกกับค่าแรง จนกระทั่งเขาอายุได้ 19 ปี ได้เข้าศึกษาที่ Queens University ในเมือง Kingston, Ontario หลังจากที่ Elon Musk ได้เข้าเรียนที่ Ontorio เป็นเวลา 2 ปี ในที่สุด เขาก็มีโอกาสได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เขาได้รับทุนการศึกษาจาก University of Pennsylvania โดยเขาได้รับปริญญาในสาขาวิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาวิชาฟิสิกส์และในปีถัดมาก็ได้เข้าไปเรียนต่อที่ Wharton School of Business และได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์อีกหนึ่งใบ เรียกได้ว่าเรียนมาตรงสายกับเป้าหมายของเขาตั้งแต่แรกเลย ในวัยเด็กเขาได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ชื่อว่า The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy ที่เขียนโดย Douglas Adams ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Elon Musk เกี่ยวกับอวกาศ โดยเขาได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า “จะรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยการไปตั้งถิ่นฐานที่ดาวอังคาร” และสิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้เขาสามารถไปถึงฝั่งฝันได้ก็คือ “เงิน” โดยเขาคิดว่าสิ่งที่จะสามารถสร้างเม็ดเงินและผลักดันความฝันของเขาให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ก็คือ เขาจะต้องเข้าสู่โลกธุรกิจในอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต พลังงานธรรมชาติและยานอวกาศ ในปี 1995 Elon Musk ได้เข้าศึกษาที่ Stanford University แต่ก็เรียนได้แค่ 2 วัน เขาก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปเริ่มธุรกิจกับน้องชายของเขา Kimbal Musk เพื่อเริ่มต้นธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่ชื่อว่า Zip2 ซึ่งเป็นบริษัทที่รวบรวมข้อมูลของหนังสือพิมพ์เจ้าต่าง ๆ อย่าง The New York Times และ Chicago Tribune โดยพวกเขาได้รับเงินทุนจำนวนก้อนหนึ่งจาก Angel Investor หรือ นักลงทุนอิสระ จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1999 บริษัท AltaVista ซึ่งเป็น Serch Engine ยักษ์ใหญ่ ได้ทำการติดต่อและเข้าซื้อกิจการของ Zip2 โดยจ่ายด้วยเงินสดจำนวน 307 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,500 ล้านบาท) และอยู่ในรูปของหุ้นอีก 34 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) รวม ๆ แล้ว Zip2 สามารถทำเงินได้กว่าหมื่นล้านบาท ซึ่ง Elon Musk มีหุ้นส่วนในบริษัทอยู่ 7 เปอร์เซ็นต์ เขาจึงได้รับส่วนแบ่งประมาณ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 680 ล้านบาท ต่อมาในเดือนมีนาคม ปี 1999 เขาก็ได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ชื่อว่า X.com ซึ่งเป็นระบบการรับชำระเงินบนอินเตอร์เน็ต ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนกระทั่งในเดือนมีนาคม ปี 2000 เขาก็ได้ควบรวมกิจการเข้ากับคู่แข่งอย่าง Confinity ซึ่งขับเคลื่อนโดย Peter Theil แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Paypal โดย Elon Musk ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และในระหว่างที่กำลังฟอร์มทีมงานใหม่หลังควบรวมกิจการ Elon Musk ก็มักมีปัญหากับ Max Levchin เรื่องของการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ เขาจึงลาไปพักร้อนที่ประเทศออสเตรเลียชั่วคราว ทางกรรมการบอร์ดบริหารจึงฉวยโอกาสนี้ในการปลด Elon Musk ออกจากตำแหน่ง CEO แล้วตั้งให้ Peter Thiel ขึ้นเป็น CEO แทน จนกระทั่งในปี 2002 eBay ก็เข้าซื้อกิจการ Paypal ไปในราคา 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 46,500 ล้านบาท) โดย Elon Musk ได้รับส่วนแบ่งเป็นจำนวน 180 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 5,500 ล้านบาท) ซึ่งเพียงพอที่จะนำไปลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทนและวิศวกรรมอวกาศต่อไป

Tesla Motors กำเนิดในปี 2003 Tesla Motors ที่ก่อตั้งโดย Martin Eberhard และ Marc Tarpenning ซึ่งเป็นบริษัทแรก ๆ ที่พยายามจะสร้างรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในปี 2004 Elon Musk เข้ามาร่วมลงทุนใน Tesla กว่า 70 ล้านเหรียญฯ และกลายมาเป็นประธานบริษัทของ Tesla Elon Musk มีส่วนช่วยในการออกแบบรถ Tesla รุ่น Roadster และได้รับรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลกในปี 2006 และบริษัทได้เติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถระดมทุนเพิ่มได้อีกกว่า 100 ล้านดอลล่าร์ แต่ในปี 2007 ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อ Tesla Roadster กำลังเข้าสู่ไลน์การผลิต และด้วยการบริหารที่ไม่ดีพอของฝ่ายการผลิตทำให้ราคาขายปลีกพุ่งขึ้นสูงเป็น 2 เท่า ทำให้ Tesla ตกอยู่ในวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก Elon Musk จึงต้องลงมาจัดการเองทั้งหมด โดยไล่ทีมงานที่เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวในครั้งนี้ออกทั้งหมด จนกระทั่งในเดือนธันวาคม ปี 2007 Elon Musk ได้แต่งตั้ง CEO และประธานบริษัทคนใหม่เข้ามาบริหาร นั่นก็คือ Ze’ev Drori และบริหารได้เป็นอย่างดี แต่เขาบริหารได้เพียง 1 ปี เขาก็ลาออก Elon Musk กับ Ze’ev Drori ช่วยกันแก้วิกฤต โดยการลดค่าใช้จ่ายทุกทางเท่าที่ลดได้ จนที่สุดในปี 2008 ก็สามารถทำให้ Tesla Roadster ออกสู่ตลาดในราคาที่เหมาะสมได้ในที่สุด

SolarCity ในปี 2003 เขาได้ติดต่อ SolarCity Corperation ที่มีสำนักงานใหญ่ที่ San Mateo, California ก่อตั้งโดยสองญาติพี่น้องอย่าง Lyndon Rive และ Peter Rive โดย Elon Musk ได้ลงทุนเงินไปเป็นจำนวน 10 ล้านเหรียญ โดย SolarCity ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ส่งไปยังที่อยู่อาศัยของพลเรือนและรัฐบาล การเข้าไปลงทุนใน SolarCity ของ Elon Musk นั้น เนื่องจากเขาต้องการสร้าง Eco – system โดยใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อนำไปซับพอร์ทกับพลังงานไฟฟ้าให้กับ Tesla Motors ต่อมาบริษัท Tesla ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ SolarCity

SpaceX ธุรกิจที่ Elon Musk วาดฝันเอาไว้ตั้งแต่วัยเด็กว่าสักวันหนึ่งเขาจะรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ยังคงดำรงต่อไปโดยตั้งใจที่จะพาชาวโลกไปตั้งอนานิคมบนดาวอังคาร ผ่านธุรกิจวิศวกรรมอวกาศ โดยในปี 2001 Elon Musk ได้เดินทางไปที่มอสโก ประเทศรัสเซียเพื่อติดต่อขอซื้อจรวด แต่ต้นทุนปล่อยจรวด 1 ครั้งนั้นสูงจนเกินไปเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทผลิตจรวดขึ้นมาในวันที่ 6 พฤษภาคม ปี 2002 เขาก่อตั้งบริษัท SpaceX ที่เมือง Hawthorne รัฐ California โดยจะผลิตและสร้างจรวดด้วยตนเอง เป้าหมายของธุรกิจอวกาศของเขา ไม่ใช่แค่ส่งจรวดไปโคจรรอบโลกเท่านั้น แต่เป้าหมายของ Elon Musk นั้นต้องการส่งจรวดไปตั้งอาณานิคมใหม่บนดาวเคราะห์ดวงอื่น โดยโครงการของ SpaceX ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากกลุ่มต่าง ๆ มากมาย SpaceX ได้เปิดตัวโครงการ Falcon 1 ในปี 2002 ซึ่งโครงการนี้ ใช้เวลาในการสร้างจรวดประมาณ 4 ปี หลังจากปล่อยจรวดไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่มีต่อ Elon Musk และในที่สุดในวันที่ 28 กันยายน ปี 2008 การปล่อยจรวด Falcon 1 ในครั้งที่ 4 ก็สามารถกลับลงจอดบนพื้นโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้สามารถดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้มีการเซ็นสัญญากันระหว่าง SpaceX และ NASA จรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้นี้ ได้ช่วยลดต้นทุนให้กับการขึ้นบินแต่ละครั้งได้อย่างมหาศาล โดยอย่างน้อยที่สุด สามารถลดค่าใช้จ่ายให้เหลือเพียง 1 ใน 3 จากเดิม แต่ SpaceX ก็ยังคงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของฝันอันยิ่งใหญ่ของ Elon Musk ที่ต้องการจะไปตั้งรกรากที่ดาวอังคาร โดยเขาได้วางแผนเอาไว้ว่า เป้าหมายคือการส่งคนจำนวน 1 ล้านคน ไปยังดาวอังคาร โดยจรวดเที่ยวหนึ่งจะจุคนได้ประมาณ 100 ที่นั่งและคาดว่าแผนนี้น่าจะใช้ได้ในช่วง 40-100 ปี นับจากนี้ โดยจะใช้เวลาเดินทางจากโลกไปยังดาวอังคารประมาณ 80 วัน แต่จะพยายามลดลงให้เหลือเพียง 30 วัน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางข้ามดวงดาวจะตกอยู่ที่คนละ 10 พันล้านเหรียญ แต่เขาคาดเอาไว้ว่า ค่าเดินทางจะต้องลดให้เหลือคนละ 100,000-200,000 ดอลล่าร์ต่อคนให้ได้ โดยคาดว่าหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ลูกเรือเที่ยวบินแรกอาจจะเกิดขึ้นภายใน 10 ปี ข้างหน้านี้ก็เป็นได้

ยังมีอีกหลายโครงการที่ Elon Musk กำลังพัฒนาไม่ว่าจะเป็น

Hyperloop : ระบบการขนส่งมวลชนที่จะกลายเป็นระบบการส่งทางเลือกที่ 5 ของโลก นอกเหนือจากทางรถยนต์, รถไฟ, เรือ และเครื่องบิน
OpenAI : เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยเขาต้องการพัฒนาให้ปัญญาประดิษฐ์นั้นมาช่วยในด้านความปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ
Neuralink : เป็นการต่อยอดจาก OpenAI โครงการนี้ต้องการเชื่อมต่อระหว่างสมองของมนุษย์รวมเข้ากันกับปัญญาประดิษฐ์

อีลอน มัสก์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า

“ หากมีบางสิ่งบางอย่างที่มันมีค่ามากพอสำหรับคุณ คุณก็ควรลองพยายามลุยกันดูสักตั้ง แม้ว่าผลลัพธ์ที่คาดเอาไว้นั้น มันจะล้มเหลวก็ตามที ”

“ ความล้มเหลวเป็นตัวเลือก หากสิ่งต่าง ๆ ไม่ล้มเหลวคุณก็ไม่ได้คิดสร้างสรรค์มากพอ ”

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@inDigital ที่นี่