ในยุคปัจจุบันการทำการตลาดนิยมทำในรูปแบบการตลาดออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ก็หวังเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์ทั้งนั้น เพราะว่าช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้เข้ามาเจอกันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น ในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์หรือออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง จึงจำเป็นที่จะต้องวัดผลได้และมีเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยผู้ที่จะทำการขายออนไลน์ ซึ่งจะพาไปทำความรู้จักกับเครื่องมือตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Google Tag Manager ว่าเครื่องมือตัวนี้จะเป็นอย่างไรบ้างและช่วยอะไรผู้ใช้งานได้บ้าง
Google tag manager คืออะไร?
Google tag manager หรือเรียกสั้นๆ ว่า GTM คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการและติด tag หรือ code ต่างๆ ที่ผู้ใช้ต้องการ ภายในเว็บไซต์หรือเฉพาะหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์นั้น ผ่าน interface ที่ใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ก็พอที่จะสามารถติดตั้ง code บางอย่างเองได้ง่ายๆ เช่น code google analytics, Facebook pixel, code remarketing เป็นต้น ซึ่ง tag เหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ทุกเอเจนซี่ต้องติดให้ลูกค้าอยู่แล้ว ซึ่งการที่เอเจนซี่สามารถติด tag ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์ของทางลูกค้า สามารถทำให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะ ที่สำคัญทำให้สามารถสร้างงานได้เร็วขึ้นด้วย เพราะว่าผู้ใช้สามารถติด tag เองได้ เช็คเองได้ว่า tag ทำงานถูกต้องหรือไม่
สาเหตุที่ต้องนำ GTM มาใช้งาน
- เครื่องมือตัวนี้ทาง Google เปิดให้ใช้ฟรี ดังนั้น ผู้ใช้งานก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่สิ่งที่ Google จะได้กลับไป คือ ข้อมูลของเว็บไซต์ ที่ Google นำไปพัฒนาสร้างสินค้าใหม่ เพื่อให้เราได้ใช้มากขึ้นนั่นเอง แต่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลเราจะหายไป เพราะยังไงเว็บไซต์ก็ติด Google Analytics ไว้อยู่แล้ว
- การติดตั้งง่าย เพียงแค่กรอกชื่อธุรกิจ ใส่ชื่อเว็บไซต์ กดปุ่ม Create ให้ Code กับโปรแกรมเมอร์ไปติดตั้งในเว็บไซต์ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการของการติดตั้ง และก็เริ่มการใช้งานได้แล้ว
- หลังจากติดตั้งแล้ว ไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับ Code ของเว็บไซต์นั้นอีก และยังสามารถเพิ่ม Tracking ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Pixel, การกดปุ่ม LINE@, การฝาก Email ในหน้าเว็บไซต์, Adwords Conversion, Adwords Remarketing เป็นต้น
- ช่วยลดความซับซ้อนของการทำงานระหว่าง Programmer และ Marketer ที่ต้องเจอปัญหาการสื่อสารไม่เข้าใจกันอยูบ่อยครั้ง เครื่องมือ GTM ตัวนี้สามารถช่วยลดความยุ่งยากในจุดนี้ได้ เพียงแค่ให้โปรแกรมเมอร์นำ Code ไปติดตั้งในเว็บไซต์ ซึ่ง Marketer ก็ไม่ต้องรอการติดตั้ง Tracking ต่างๆ ในเว็บอีกต่อไป ทำให้ Marketer ทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
สำหรับเครื่องมือ GTM นี้ สามารถเข้ามาช่วยรวบรวม Tag ต่างๆ ไว้ให้อยู่ในที่เดียวกันและสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์ให้เสียงบประมาณ และยังสามารถลดขั้นตอนการทำงานได้มากขึ้น ดังนั้น ถ้าผู้ใช้มีธุรกิจออนไลน์อยู่ก็ลองคิดว่าควรใช้เครื่องมือ GTM ไว้ในธุรกิจนั้นหรือไม่เพื่อทำให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@inDigital ที่นี่
Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th