มารู้จัก Google Correlate กันเถอะ!!

เครื่องมือที่ชื่อว่า Google Correlate หลายคนที่ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง เพราะถ้าใครที่เห็นเครื่องมือนี้ครั้งแรกก็อาจจะงงๆ หน่อย ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นใช้ยังไง มีบทความจากต่างประเทศว่า จริงๆ Google Correlate ก็มีอะไรที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์พอสมควรกับทั้งคนที่ทำ Content และ SEO รวมถึงการนำไปปรับใช้กับการทำ Marketing ได้ดีเลยทีเดียว แต่ข้อมูลที่อยู่ใน Google Correlate ได้หยุดทำการอัพเดทมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ หรือจะเหตุผลใดก็ตาม แต่ก็ยังสามารถจะใช้งานกันได้อยู่ ไม่แน่ต่อไป Google Correlate อาจจะกลับมาอัพเดทและนำมาใช้กันอีกครั้งก็ได้ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Google Correlate คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เราจะมาอธิบายถึง Google Correlate กัน

Google Correlate คืออะไร

Google Correlate เป็นเครื่องมือที่เผยให้เห็นถึง Keywords ที่มีการค้นหาเป็นไปในรูปแบบเดียวกับคำที่เรากำหนด อย่างเช่น เครื่องมือ Google Trends เวลาที่ใช้งาน Google Trends จะเห็นกราฟที่พล็อตออกมาเป็นกราฟขึ้นลงช่วงเวลาหนึ่ง (Time Series) และการทำงานของ Google Correlate ก็คือ จะไปหาคำอื่นๆ ที่มีแพทเทิร์นของ Trend การค้นหาแบบเดียวกันมาแสดงผลนั่นเอง ซึ่งนั่นจะทำให้รู้ว่ามีคำอะไรบ้างที่ Correlate กันคำที่เราค้นหาอยู่ และมีความเกี่ยวข้องกัน

วิธีการใช้งาน Google Correlate

การใช้งาน Google Correlate ให้เข้าไปที่ลิงค์ Google Correlate หลังจากเข้าไปที่ลิงค์ ก็ให้ใส่คีย์เวิร์ดที่สนใจในช่องค้นหา แล้วกด Search Correlations ระบบก็จะลิสต์คำที่มีความเกี่ยวข้องออกมาโดยมีค่าตัวเลขกำกับมาด้วย ตัวเลขนี้ถ้ายิ่งใกล้ค่า 1 มากเท่าไรแสดงว่าจะมีความเหมือนกันมาก เรียกได้ว่ากราฟเทรนด์ ตัวอย่างคือคำว่า รถยนต์ ระบบก็จะแสดง 10 คำที่มีความใกล้เคียงมากที่สุด และถ้าหากอยากจะดูเพิ่มก็ให้กด Show more ไปเรื่อยๆ หรือถ้าอยากจะ Export ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ถ้ามองจริงๆ อาจจะไม่ได้มีความต่างจาก Google Trends เท่าไร เพราะ Google Trends ก็มี Related Queries แสดงคำที่มีการค้นหาร่วมกันอยู่ แต่ Google Trends อาจมีหลายอย่างที่ทำไม่ได้แบบเครื่องมือนี้ เช่น การค้นหาจากเส้นกราฟที่วาดเอง การ Shift Time Series เพื่อดู Trend ก่อนหน้านี้ หรือการพล็อตกราฟแบบ Scatter เป็นต้น

จากภาพด้านบนให้คลิกที่ Search by Drawing ที่เมนูทางด้านซ้าย แล้วลองลากกราฟ ตัวอย่างนี้คือจะดูว่าอะไรที่เป็นเทรนด์ที่มีการค้นหาในสามปีที่ผ่านมา พอลากแล้วก็ให้กด Correlate! ได้เลย keywords ที่ออกมาจากเส้นเทรนด์ที่เราวาดเองเลย แล้วลองใส่คำที่น่าสนใจได้เลย แต่ความไม่สะดวกอย่างหนึ่ง คือ ต้องมาไล่ดูคำเอง เพราะระบบจะสนใจแค่ Correlate กันเท่านั้น ไม่มีการคัดแยกประเภทคำให้

ประโยชน์ที่ได้จาก Google Correlate

  • สามารถดูว่ามีสิ่งใดน่าสนใจเและไม่น่าสนใจแล้ว ด้วยการวาดเส้นกราฟ
  • สามารถใช้เพื่อ Target กลุ่มเป้าหมาย ก่อนที่กลุ่มเป้าหมายพร้อมจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับเรา
  • สามารถวาง Content Strategy และทำโฆษณาแบบ Retargeting ซึ่งคล้ายกับข้อที่แล้ว เพียงแต่แทนที่จะซื้อ keywords คำที่ correlate ก็เปลี่ยนมาเป็นการวางแผนทำ Content Strategy แล้วนำ Pixel สำหรับการทำ Retargeting ทั้ง Facebook และ Google ไปวางไว้ในบทความเหล่านั้น แล้วก็ทำการส่งโฆษณาออกไปแทน

ท้ายนี้หวังว่า Google Correlate จะกลับมาอัพเดทข้อมูลอีกครั้ง และอยากให้ได้ลองใช้ Google Correlate กัน เพราะสามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่อาจจะยังไม่เคยได้ลองใช้ใน Google กัน

 

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

ติดต่อ Line ID : @indigital (มีนะคะ)
คลิกเพื่อ ADD Line : https://line.me/R/ti/p/%40indigital

Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
คลิก https://www.facebook.com/indigital.co.th/
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th

ที่มา : GOOGLE ANALYTICS THAILAND

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *